วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การทำธุรกิจและการตลาดในยุคดิจิทัล 3.0

ให้ น.ศ. ฟังบรรยายเรื่อง "Online Business with Google" แล้วปฏิบัติดังนี้ 1.สรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการรับฟัง ลงใน Web Blog ของ น.ศ. 2.หาคำศัพท์ที่ได้จากการรับฟังพร้อมหาความหมาย เพื่ออธิบายคำศัพท์ดังกล่าว อย่างน้อย 20 คำ แล้วสรุปใน Web Blog
1.สรุปองค์ความรู้ที่ได้จากการรับฟัง ลงใน Web Blog ของ น.ศ. 
Media แบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ
1. Owned media เป็นสื่อเว็บไซต์ที่เราเป็นเจ้าของเอง
2. Paid media สื่อที่เราต้องจ่ายเงินซื้อประเภท Branner, Sponser ship
3. Earned Media ลูกค้าเป็นเจ้าของ โดยมีการพูดถึงธุรกิจกับลูกค้าด้วยกัน
4. Social Media เจ้าของธุรกิจเป็นผู้ติดต่อกับลูกค้าโดยตรง เสนอข้อดีของธุรกิจให้กับผู้บริโภค
การนำ Co-creation ไปใช้ประโยชน์ใน Social Media การให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการพัฒนาสินค้า การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ประกอบการโดยตรง ผ่านสื่อ Social ต่าง เช่น facebook การกดไลค์โดยไม่มีผู้ Comment หรือแลกเปลี่ยนความเห็นก้อไม่มีประโยชน์อะไรในธุรกิจ และะยังช่วยในการประหยัดเรื่องการทำนวัตกรรทใหม่ๆ อีกด้วย
ในยุคแรกๆ การทำ Awareness เปรียบเสมือนการขับเคลื่อนในการสร้าง Brand ของธุรกิจ แต่ปัจจุบันเราต้องมองในด้านของการสร้างไดอะล็อกในการบทสนทนา Dialog Conversation ระหว่างธุรกิจและลูกค้า เปลี่ยนจาก Customer มาเป็นคำว่า Fans ความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบ Share ข้อมูลระหว่างกัน
2.หาคำศัพท์ที่ได้จากการรับฟังพร้อมหาความหมาย เพื่ออธิบายคำศัพท์ดังกล่าว อย่างน้อย 20 คำ แล้วสรุปใน Web Bblog
1. Influencer Marketing คือ แนวคิด Influencer Marketing นักการตลาดจำเป็นต้องใช้สัญชาตญาณ และการสังเกตเล็กน้อย ก่อนจะเลือกใครสักคนใน Community แต่ละเรื่องมาเป็นผู้ทรงอิทธิพล จำเป็นต้องเรียนรู้พฤติกรรมการตอบสนองของเขาต่อผู้ที่ติดตาม และต้องเฝ้าวิเคราะห์ 
2. Buzz Marketing คือ การตลาดแบบผึ้งแตกรัง
3. Community Marketing คือ การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีทำให้การตลาดสินค้าเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป ก่อให้เกิดการตลาดแบบใหม่
4. Cause Marketing คือ การเชื่อมธุรกิจของคุณเข้ากับองค์กรที่ไม่หวังผลกำไร (NGO) หรือองค์กรการกุศลต่างๆ ซึ่ง เป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยส่งเสริมธุรกิจ
5. Referral Marketing คือ การตลาดแบบแนะนำบอกต่อ
6. Evangelists Marketing คือ กลยุทธ์ทางการตลาดที่มักจะนิยมและนำไปใช้เกือบทุกๆ ครั้งของการรวมกลุ่มมวลชนหรือการสร้างม็อบก็คือ Evangelist marketing
7. Content Marketing คือ การนำ Content หรือเนื้อหา มาเป็นส่วนหลักในการทำการตลาด
8. Change of costomer การเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ผู้ประกอบการควรรู้
- ความมีอิสระต่างๆ ไม่ขึ้นกับใคร การแสดงความคิดเห็นชอบ ไม่ชอบอย่างไม่สนใจใคร
- มีบทบาทเป็น Reviewer มีการวิจารณ์มากขึ้น การประกาศได้ง่ายในกลุ่มของ Publisher การกระจายข่าวได้ง่ายและกว้าง
- การสร้างบทสนทนาที่ดีระหว่างธุรกิจกับลูกค้า การตอบโต้พูดคุย แลกเปลี่ยนความเห็นกันข้อดี ข้อเสียของสินค้า
- การคำนึงถึงความโปร่งใส จริงใจ ในยุคนี้เป็นยุค open เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเข้าถึงได้ง่าย การนำข้อมูลของผู้อื่นไปใช้ ทั้งภาพรูป เสียง สมควรที่จะมีการอ้างถึง หรือทำ Credit
- การอาศัยความร่วมมือของผู้บริโภค เพื่อประยุกต์ใช้ด้านการตลาด
- การหาข้อมูลจากสื่อเทคโนโลยีต่างๆ ผู้บริโภคจะฟังข้อมูลจากบุคคลอื่นมากกว่า เจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการ ส่วนมากจะเชื่อคำวิจารณ์จากลูกค้าด้วยกันที่เคยใช้บริการมาแล้ว
9. Alway on & Control ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ออนไลน์ตลอดเวลา และอำนาจส่วนใหญ่อยู่ในมือผู้บริโภค
ขั้นตอนแรกในการสร้าง Product offering
- Awarneness การทำให้ผู้บริโภครู้จัก
- จากนั้น การทำ Involvement การทำให้เกิดมีส่วนร่วมกับธุรกิจ
- จากนั้น การทำ Trial มีการให้ลูกค้าทดลองสินค้า แล้วเกิดความชอบสินค้าของธุรกิจ
- จากนั้น การทำ Commitment เมื่อชอบแล้วมีการบอกต่อให้กับผู้บริโภคคนอื่น
- สุดท้ายของการทำ Referral ต้องทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจในสิค้า และกล้าแนะนำให้ผู้บริโภคคนอื่นที่ไม่รู้จักมาใช้สินค้าหรือบริการนั้นๆ ต้องติดต่อเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย ให้ข้อมูลสินค้าแก่ลูกค้าได้ มีการทำ Entertainment Value ต้องมีการ Share Brand ธุรกิจ ระหว่างผู้บริโภคด้วยกัน สามารถทำให้ลูกค้ามีความสุข ประทับใจธุรกิจ
10. Change of marketing การเปลี่ยนแปลงของการตลาด
11. Transaction Marketing เปรียบได้กับการซื้อมา ขายไป การแลกเปลี่ยนแบบมีสถานที่ หรือตลาดคงที่ สามารถจับต้องได้ ลูกค้าเป็นผู้ตัดสินใจเท่านั้นในการซื้อสินค้า การบริโภคของลูกค้าองค์กรธุรกิจสามารถกำหนดคามต้องการของผู้บริโภคได้ เหมือนหยิบสินค้าใส่มือผู้บริโภค 
12. Relatioship Marketing เป็นการให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ แบบ One on One ลงทุนในระยะยาว ความจงรักภักดีของลูกค้าต่อธุรกิจ ด้านการตลาดไม่จำเป็นต้องเป็นสถานที่ที่จับต้องได้ ความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้าเท่านั้น บทบาทของธุรกิจมีการสำรวจกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภค
13. Collabrative Marketing ความสัมพันธ์การตลาดแบบ Many to Many การร่วมกลุ่มกันทำการตลาด ลูกค้ามีส่วนช่วยในการโฆษณา ออกความคิดเห็นได้ ปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้าได้ตามความต้องการ การใช้หลักการ Co created experence การได้มีส่วนร่วมในการสร้างสินค้าร่วมกัน ด้านการตลาดมีตลาดเปรียบเสมือนเวที สร้างรายการสินค้า เปลี่ยนแปลงรูปแบบหน้าร้านได้เสมอ ความสัมพันธ์ไไม่ได้มองเพียงธุรกิจ กับลูกค้าแต่รวมถึง คู่แข่ง และคนที่ไม่ใช่ลูกค้าทุกๆ คนด้วย ด้านธุรกิจ ใช้ผู้บริโภคเป็นผู้ตัดสินใจในตัวสินค้าแล้วบอกข้อมูลแก่ธุรกิจ
14. Brand can use Co-creation การทำ Co-creationมีสว่นช่วย Brand ในเรื่องใดบ้าง
- ช่วยในด้านการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เช่นการให้ลูกค้าคิดสูตรอาหารที่ต้องการเอง การให้ลูกค้า
- ออกแบบเสื้อแล้วนำมาแชร์กันเพื่อผลิตออกจำหน่าย ช่วยในด้านการสร้างความสัมพันธ์ จากความสนิท คุ้นเคย ปรึกษาหรือพูดคุยอยู่บ่อยๆ
- ช่วยในด้านการให้บริการ การออกความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้าและบริการ
- ช่วยในด้านการเก็บข้อมูล การสำรวจข้อมูลไปใช้ในการทำวิจัย
- ช่วยในด้านการจัดแบ่งกลุ่มผู้บริโภค
- ช่วยในด้านการพัฒนาองค์กร ธุรกิจของผู้ประกอบการ
15. The world of communication is ever Changing การเปลี่ยนแปลงในเชิงการสื่อสาร
16. Awarneness การทำให้ผู้บริโภครู้จัก
17. Conversation Marketing คือ การตลาดที่เกิดมาจากการสนทนากันแต่ที่คนพูดถึงคำๆ นี้ เขาว่ากันว่ามันเป็นอะไรที่มากกว่าการคุย
18. Product Marketing คือ การวางแผนทางการตลาด
19. Brand Marketing คือ การทำให้ สองส่วนนี้เข้าใกล้กันและกัน ยิ่งเราสามารถทำให้ใกล้กันแค่ไหน Brand ที่ส่งออกมาก็จะชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น
20. Viral Marketing คือ การตลาดแบบไวรัส

1 ความคิดเห็น:

  1. ดีมาดเลยค่ะสารครบถ้วนอ่านแล้วเข้าใจง่ายมากดีมากค่ะ

    ตอบลบ